20 ที่เที่ยวยอดนิยมเชียงใหม่ 2567

20 ที่เที่ยวยอดนิยมเชียงใหม่ 2567

หากนึกถึงจังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิต ติดอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวตลอดกาล คงไม่พ้นเชียงใหม่ เมืองที่มีครบทุกสิ่งในแบบที่ต้องการ เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม ตั้งแต่ภูเขา น้ำตก แม่น้ำ จนไปถึงไม้ดอกและพืชพรรณนานาชนิด มีความหลากหลายในด้านการท่องเที่ยว  มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี นี่คือมนต์เสน่ห์แห่งล้านนาที่ดึงดูดให้นักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติอยากไปจิบความชิคๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ไปสัมผัสวิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ ที่เชียงใหม่ วันนี้แม่ฮ่องสอน กรีน ทราเวล จะมาอัพเดท 20 ที่เที่ยวยอดนยิมเชียงใหม่ 2567 ตามไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง

ดอยอินทนนท์ 

ดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร มีสภาพภูมิประเทศและสภาพป่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ ส่วนสภาพภูมิอากาศนั้นมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวัน และในตอนเช้าตรู่อาจเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง ที่สร้างความฮือฮาในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นประจำในทุกฤดูหนาว 

กิจกรรมที่ดอยอินทนนท์ 

1. ไหว้พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ 

2. ชมทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาว ซึ่งบนดอยอินทนนท์นั้นจะมีจุดชมทะเลหมอกที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับปรากฏการณ์ทะเลหมอกซึ่งสวยงามอลังการอย่างมาก โดยจุดชมทะเลหมอกจะตั้งอยู่บริเวณหน้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน 

3. ชมน้ำตก ที่ดอยอินทนนท์มีน้ำตกหลายแห่ง อย่างเช่น น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกแม่ยะ ซึ่งต่างก็มีความสวยงามน่าชม 

4. เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่นิยมกันมากคือเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน และอ่างกา (อ่างกาหลวง)

5. ชมนาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวง ช่วงหน้าฝนจะได้ชมนาขั้นบันไดสีเขียวของต้นข้าวที่เพิ่งเติบโต และเมื่อย่างเข้าหน้าหนาว นาขั้นบันไดก็จะกลายเป็นสีทองจากสีของต้นข้าวที่พร้อมเก็บเกี่ยว 

6. ดูนก ในช่วงหน้าหนาวเป็นฤดุที่เหมาะสำหรับดูนกอย่างมาก เพราะมีทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพมากกว่า 380 ชนิดที่สามารถพบได้บนดอยอินทนนท์ 

7. ดูดาว ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบพระชนมพรรษา ซึ่งเป็นหอดูดาวแห่งชาติของประเทศไทย ตั้งอยู่บนบริเวณยอดดอยอินทนนท์ หอดูดาวแห่งนี้เป็นหอดูดาวขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

8. ชมสถานีวิจัยโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นสถานีวิจัยดอกไม้เมืองหนาว

9. ซื้อของฝากของที่ระลึก บนดอยอินทนนท์มีตลาดเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านนำสินค้าท้องถิ่นมาขาย โดยเฉพาะผลไม้แปรรูปที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อเป็นของฝากได้

ดอยอินทนนท์

พระธาตุดอยสุเทพ 

พระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ ใกล้กับตัวเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่ครั้งแรกมักจะมาเที่ยวชม และไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล ภายในวัดมีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น อายุมากกว่า 500 ปี ทางขึ้นไปยังวัดต้องเดินผ่านบันไดนาคกว่า 300 ขึ้น หรือจะขึ้นไปโดยรถรางไฟฟ้าก็ได้ เมื่อขึ้นไปถึงวัดแล้วจะต้องถอดรองเท้าไว้ จากนั้นถึงเข้าไปยังตัววัดด้านในได้ ด้านในของวัดมีเจดีย์ตั้งอยู่ตรงกลางเดินได้โดยรอบ นักท่องเที่ยวมักจะไหว้พระและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ที่บริเวณลานวัด เป็นจุดชมวิว มองเห็นเมืองเชียงใหม่และสนามบินเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน ตามประวัติแห่งดอยสุเทพนั้นเชื่อกันว่า เดิมภูเขาแห่งนี้เป็นที่อยู่ของฤาษีนามว่า "สุเทวะ" ซึ่งตรงกับคำว่าสุเทพอันเป็นที่มาของชื่อดอยสูงแห่งนี้ ส่วนวัดพระธาตุดอยสุเทพนั้นสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช เจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้ทรงอัญเชิญมาจากเมืองศรีสัชนาลัย

ดอยสุเทพ

ม่อนแจ่ม

จากพื้นที่ที่ชาวบ้านเรียกกันว่ากิ่วเสือซึ่งเป็นป่ารกร้างมานมนานและมีการแผ้วถางปลูกฝิ่น ได้แปรเปลี่ยนสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเชียงใหม่ที่ทุกคนต้องเดินทางไปชื่นชม ความที่ม่อนแจ่มมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี งดงามด้วยหมอกขาวยามเช้า และมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์แห่งเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนไกลสุดสายตาราวกับภาพฝัน โดยยอดเขาทางทิศตะวันออกนั้นมีจุดชมวิวที่ชื่อว่า "ม่อนล่อง" ซึ่งเหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง และชมทะเลหมอกบนหน้าผาสูง ส่วนทางด้านทิศใต้จะเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอย และพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นในการทำแปลงปลูกผักและวิจัยพืชเมืองหนาว เช่น อาร์ติโช๊ค สมุนไพรเลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่ ส่วนไม้ผลนั้น เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์ 80 แปลงผักไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งเป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง ผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ฯลฯ

ฤดูท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวคือ เดือนตุลาคม -กุมภาพันธ์ 

ม่อนแจ่ม

แม่กำปอง

ความสุขของการมาท่องเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปอง คือ การได้มาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ ลำธารและวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ยังคงเรียบง่ายและอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว โดยอาจเลือกเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือนอนพักโฮมสเตย์ของชาวบ้าน ซึ่งมีให้บริการอยู่หลายแห่งโดยเป็นการท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตของชุมชน ดูการเก็บชา ใบเมี่ยง และการปลูกกาแฟ 

บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ออน เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี มีลำธารใสเย็นไหลพาดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตที่หลายคนมักจะปักหมุดอยากมาเที่ยวให้ได้ซักครั้ง เที่ยวแม่กำปองสามารถเที่ยวแบบค้างคืนพักผ่อนนอนโฮมสเตย์ริมธาร  ในบรรยากาศเรียบง่าย ที่มีให้เลือกหลายเจ้า  หรือจะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับก็สามารถเที่ยวได้แบบสบายๆ

แม่กำปอง

ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขางเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติของเชียงใหม่ งดงามไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวมากมายหลายสายพันธุ์ บนดอยมีจุดท่องเที่ยวมากมายหลายจุด บรรยากาศแสนโรแมนติก ดอยอ่างขางตั้งอยู่บนภูเขาแดนลาว อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร เป็นจุดที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง โดยจะมีดอกสีชมพูบานสะพรั่งริมสองฝั่งทางขึ้นดอยอ่างขางในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ บนดอยอ่างขางมีอากาศหนาวเย็นทั้งปี แต่ปลายปีคือช่วงพีค เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวมาให้พร้อม ไร่ชา 2000 ไร่ชากว้างใหญ่แบบขั้นบันไดลาดลดหลั่นตามไหล่เขาเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบถ่ายรูป ใกล้ๆ กับสถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีแหล่งชุมชนชาวเขาคอยให้บริการเรื่องอาหารการกินแบบท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ ระหว่างทางคุณยังสามารถไปเที่ยวสวนส้มธนาธร น้ำพุร้อนฝาง และโครงการหลวงได้อีกด้วย

ดอยอ่างขาง

แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่ 

แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ อ.หางดง มีขนาดพื้นที่ความกว้างประมาณ 30 ไร่ มีคันดินสูง 20 เมตร คล้ายหน้าผา 3 - 4 หน้าผา ดูคล้ายกับแกรนด์ แคนยอน ด้วยความสวยงามของสถานที่จึงเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแนวผจญภัย เสน่ห์อีกสิ่งหนึ่งคือน้ำภายในแอ่งดังกล่าว มีสีเขียวใสเหมือนสีของมรกตล้อมรอบหน้าผาสูงใหญ่ นอกจากเดินชมและถ่ายภาพความอัศจรรย์ของพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ยังสามารถลง ไปเล่นน้ำ และสำหรับใครที่ชื่นชอบความผาดโผน ก็สามารถกระโดดหน้าผาลงน้ำได้ซึ่งถือเป็นกิจกรรมอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยม ของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บริเวณนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีการขุดหน้าดินขาย มีความลึกถึง 15 - 20 เมตร จนกลายเป็นบ่อดินขนาดใหญ่ เมื่อหมดประโยชน์จึงปล่อยให้น้ำท่วมขัง เวลาผ่านไปหลายปีกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ สีเขียวมรกต

แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

ห้วยน้ำดัง เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากที่สุดและมีชื่อเสียงมากในด้านการท่องเที่ยวที่จะชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ และเป็นที่รู้จักของชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพื่อคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ในช่วงฤดูหนาวสภาพธรรมชาติที่สวยงามของจุดชมวิวนี้ เมื่อยืนอยู่ที่บ้านพักของห้วยน้ำดังแล้วมองไปทางทิศตะวันออก ทำให้มองเห็นสภาพธรรมชาติที่สวยงาม ทิวทัศน์ของทิวเขาอันสลับซับซ้อนซึ่งมีดอยหลวง เชียงดาวที่สูงที่สุดอยู่ใจกลาง และในช่วงเช้าตรู่ของฤดูหนาวจะเกิดทัศนียภาพของทะเลหมอกที่สวยงาม

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานแห่งชาติออบหลวง

ออบหลวง เป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามและน่าเกรงขามไว้ในที่เดียวกัน เป็นเพราะว่าลักษณะทางภูมิศาสตร์ของออบหลวงที่เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาด ซึ่งช่องเขานี้มีลักษณะเป็นผาสูงชัน และแคบมาก บีบทางน้ำไหลให้แคบเข้า ดังนั้นแม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เกิดเสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่นโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาดสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของออบหลวง 

นอกจากนี้ภายในเขตอุทยานฯ ยังพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน ได้แก่ หลุมฝังศพของมนุษย์โบราณ ภาพเขียนสีขาวที่บริเวณเพิงผาช้างที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม อีกทั้งยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ล่องแก่งเรือยาง หรือล่องคายัคในลำน้ำแจ่ม

อุทยานแห่งชาติออบหลวง

สวนสนบ่อแก้ว (นามิเมืองไทย)

สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว หรือที่คนนิยมเรียกกันว่า สวนสนบ่อแก้ว นั้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 2,072 ไร่ โดยภายในสถานีคุณจะพบแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสน และยูคาลิปตัสจำนวนมาก งดงามด้วยทิวสนที่ปลูกเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบราวกับฉากในภาพยนตร์รักโรแมนติก จนได้รับฉายาว่า 'นามิเมืองไทย' นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ภูมิอากาศของที่นี่ยังชื้นและเย็นสบายตลอดปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 27.3 องศาเซลเซียส และอุณหภมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 16.8 องศาเซลเซียส ทำให้ในช่วงฤดูหนาวจึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจและถ่ายรูปกันมากมาย นอกจากนี้ สวนสนบ่อแก้วยังเป็นที่ทดลองปลูกสนภูเขาชนิดต่าง ๆ ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ นำพันธุ์มาจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ไต้หวัน เพื่อทดลองหาพันธุ์ที่เหมาะสมมาเป็นไม้เบิกนำสำหรับปลูกบนป่าเสื่อมโทรมบนดอยทางภาคเหนือ ทั้งนี้ ต้นสนที่นำมาปลูกนั้นมีอายุกว่า 30 ปี ส่วนมากเป็นสนสามใบซึ่งขึ้นอยู่ในที่สูงกว่า 500 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง  

สวนสนบ่อแก้ว

สวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2536 มีพื้นที่ประมาณ 6,500 ไร่ เดิมทีมีชื่อว่า "สวนพฤกษศาสตร์แม่สา" ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ประจำภาคเหนือของประเทศไทย แต่หลังจากนั้นได้โอนย้ายเข้าไปอยู่ในความดูแลขององค์การสวนพฤกษศาสตร์พร้อมกับวางแผนและพัฒนาให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับสากลแห่งแรกของประเทศ ซึ่งในปี พ.ศ. 2537 องค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์"

ที่สวนแห่งนี้มีสภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบและที่สูงสลับกันเป็นชั้น ๆ ในระดับ 300-970 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะการจัดสวนจะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ รวบรวมพันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้นานาชนิดได้เข้าไปศึกษาหาความรู้

สิ่งที่น่าสนใจ

1. ศูนย์สารนิเทศเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการพรรณไม้ไทย โดยเป็นนิทรรศการด้านพฤกษศาสตร์ และมีหนังสือเกี่ยวกับพรรณไม้ที่สวนพฤกษศาสตร์จัดทำขึ้นจำหน่ายอีกด้วย

2. กลุ่มอาคารเรือนกระจก อาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม ภายในอาคารใหญ่รวบรวมพรรณไม้ในเขตป่าดงดิบจากทุกภูมิภาคของทวีปเอเชีย โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการควบคุมระดับความชื้นสัมพัทธ์ด้วยการฉีดละอองน้ำในเรือนกระจก รวมทั้งมีน้ำตกจำลองด้วย ซึ่งจัดแต่งสภาพเหมือนกับเข้าไปอยู่ในป่าจริง ๆ นอกจากนี้อาคารเรือนกระจกอื่น ๆ ก็มีพรรณไม้ที่น่าสนใจ เช่น พืชทะเลทราย พรรณไม้น้ำ เฟิร์น กล้วยไม้ เป็นต้น

3. เรือนกล้วยไม้ไทยในเรือนนี้ได้รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าที่มีสีสันสวยงาม หลายชนิดมีกลิ่นหอม ส่วนใหญ่ทยอยออกดอกตลอดปี โดยรวบรวมมาจากป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง ซึ่งบางพันธุ์หาดูได้ยากและบางชนิดใกล้สูญพันธุ์

4. เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จัดไว้ 4 เส้นทาง คือ เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย (Waterfall Trail) ระยะทาง 300 เมตรo เส้นทางสวนรุกชาติ (Arboretum Trail) ระยะทาง 600 เมตรo เส้นทางวลัยชาติ (Climber Trail) ระยะทาง 2 กิโลเมตรo เส้นทางพันธุ์ไม้ประจำจังหวัด ระยะทาง 800 เมตร

สวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์

ประตูท่าแพ

ประตูท่าแพเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองเชียงใหม่ มีคำกล่าวว่า 'ถ้าหากไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่ไม่ได้แวะที่ประตูท่าแพ ก็แสดงว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่' ประตูท่าแพ หรือชื่อเดิมว่า ประตูเชียงเรือก เป็นประตูทางทิศตะวันออก และเป็น 1 ใน 5 ประตูเมืองชั้นในของเวียงเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นประตูเมืองเพียงแห่งเดียวที่มีบานประตู เมื่อมาถึงเชียงใหม่แล้ว อย่าลืมแวะมาเช็คอินที่ประตูท่าแพกันนะคะ ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ ต้องถ่ายภาพ แล้วโพสต์อวดเพื่อนๆ ทำให้รู้ว่า มาถึงแล้วนะ เชียงใหม่

ประตูท่าแพ 

วัดพระสิงห์วรวิหาร 

วัดพระสิงห์เป็นวัดสำคัญมากอีกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ โดยเป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์หรือพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนโบราณ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร หล่อด้วยสำริดหุ้มทอง สูง 79 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 700 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง" นอกจากสักการะพระสิงห์แล้ว ภายในวัดพระสิงห์วรวิหารยังมีสิ่งที่น่าชม อาทิเช่น วิหารลายคำอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสุพรรณหงส์และสังข์ทองซึ่งพบเพียงที่นี่แห่งเดียว นอกจากนี้ยังมีพระอุโบสถที่ตกแต่งแบบศิลปะล้านนา หอไตรประดับด้วยรูปปูนปั้นเทวดา และเจดีย์ทรงกลมแบบล้านนาตามความเชื่อพระธาตุเจดีย์นั้น

วัดพระสิงห์ถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะโรง (งูใหญ่) หากได้มานมัสการอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งแล้ว จะเป็นมงคลสูงสุด ทำให้อายุมั่นขวัญยืน มีความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป 

วัดพระสิงห์

วัดเจดีย์หลวง

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร หรือ วัดโชติการาม เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่ของเชียงใหม่ ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแบบล้านนาของศิลปินรุ่นหลัง โดยภายในวัดนั้น มีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจมากมาย น่าชม

1. พระวิหารหลวงทรงล้านนา ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง วิหารหลังนี้ เจ้าคุณอุบาลี คุณปรมาจารย์ และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2471 ภายในประดิษฐานพระประธานพระอัฎฐารส ปางประธานอภัย ตามศิลปะแบบเชียงใหม่ตอนต้นที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะปาละ (อินเดีย) หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ สูง 18 ศอก ส่วนด้านหน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหารงดงามยิ่ง นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิม และได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยงามที่สุดของภาคเหนือ

2. เจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย ( พ.ศ. 1913-1954) ต่อมาพระยาติโลกราชโปรดฯ ให้ช่างขยายเจดีย์ให้สูงและกว้างกว่าเดิม จนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานระหว่าง พ.ศ. 2011-2091 เป็นเวลานานถึง 80 ปี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2088 สมัยพระนางจิระประภา ได้เกิดแผ่นดินไหว ทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลง ปัจจุบันเจดีย์องค์นี้มีความสูงคงเหลือ 40.8 เมตร ฐานกว้างด้านละ 60 เมตร

3. เสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง ที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1839 ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็ก ๆ เสาอินทขิลนี้สร้างด้วยไม้ซุงต้นใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน ทุกปีในวันแรม 12 ค่ำเดือน 8 (เหนือ) หรือประมาณเดือนพฤษภาคมจะมีงาน "เข้าอินทขิล" เพื่อฉลองหลักเมืองนั่นเอง - สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น วิหารบูรพาจารย์ วิหารพระอาจารย์มั่น ศาลารายประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ หอธรรมและพิพิธภัณฑ์ และศาลยักษ์กุมภัณฑ์ 

วัดเจดีย์หลวง

วัดอุโมงค์

วัดอุโมงค์ ถือเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ เป็นสำนักปฏิบัติธรรมอยู่ท่ามกลางป่าไม้ธรรมชาติ บรรยากาศสงบ ร่มรื่น มีจุดเด่นที่น่าสนใจคือมีอุโมงค์ลักษณะเป็นกำแพงภายในเป็นทางเดินหลายช่องทะลุกันได้ ภายในอุโมงค์เคยมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ด้านบนอุโมงค์เป็นเจดีย์ที่มีอายุเก่าแก่ของล้านนา

วัดอุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพญามังรายราวปี พ.ศ. 1839 เพื่อให้ฝ่ายอรัญวาสีจำพรรษา ต่อมาพญากือนา ทรงสร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อให้พระมหาเถระจันทร์ใช้เป็นที่วิปัสสนากรรมฐาน อุโมงค์นี้มีลักษณะเป็นกำแพงภายใน เป็นทางเดินหลายช่องทะลุกันได้ ภายในอุโมงค์นั้นมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง สันนิษฐานว่าวาดขึ้นในระหว่าง พ.ศ. 1900-2000 เดิมคงเป็นภาพจิตรกรรมเต็มบริเวณของทุกห้อง ส่วนใหญ่เป็นภาพดอกบัว ดอกโบตั๋น และ นกต่าง ๆ เช่น นกยูง นกกระสา นกแก้ว และนกเป็ดน้ำ แต่ปัจจุบันค่อนข้างรางเลือนไปมากตามกาลเวลา และกำลังอยู่ในระหว่างการ บูรณะขึ้นใหม่ ส่วนด้านบนอุโมงค์นั้นเป็นเจดีย์ล้านนาเก่าแก่ ที่นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าสร้างประมาณ ต้นพุทธศตวรรษที่ 20 มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆัง มีชั้นทรงกลมประมาณ 3 ชั้นเหมือนกลีบบัวซ้อนกันอยู่ ด้านบนมีปลียอด ส่วนด้านหน้าอุโมงค์มีเศียรพระพุทธรูปหินสลัก สกุลช่างพะเยา พ.ศ. 1950-2100 นอกจากนี้บริเวณวัดอุโมงค์ยังเป็นสวนพุทธธรรมที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ เหมาะกับการนั่งวิปัสสนา โดยด้านหลังเป็นสวนป่าและสวนสัตว์ซึ่งเป็นเขตอภัยทาน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ดูนกที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่

วัดอุโมงค์

วัดพระธาตุดอยคำ

วัดพระธาตุดอยคำ แต่เดิมชื่อ วัดสุวรรณบรรพต ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เป็นวัดสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี  วัดนี้มี พระเจ้าทันใจ ที่ขึ้นชื้อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ให้โชคลาภและมีญาณวิเศษที่ให้ผู้คนที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ แม้กระทั่งอัมพฤกษ์หรืออัมพาต หายขาดมาได้รวมถึงผู้คนที่นิยมเสี่ยงดวงกับกับการซื้อหวย โชคดีกันไปอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งในแต่ละวันนักท่องเที่ยวต่างแห่กันมาขอพรจากทั่วสารทิศ  บริเวณวัดมีลานชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองเชียงใหม่ได้อย่างสวยงาม  

ประวัติวัดพระธาตุดอยคำ 

สร้างในรัชสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดดอยคำ” 

พ.ศ. 2509 ขณะนั้นวัดพระธาตุดอยคำเป็นวัดร้าง ต่อมากรุแตกชาวบ้านพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระสามหมอ(เนื้อดิน) ซึ่งนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระธาตุดอยคำ พระธาตุดอยคำนอกจากจะเป็นที่สักการบูชาของคนท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของการบินไทยที่ใช้กำหนดพื้นที่ทางสายตา ก่อนที่จะนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ ด้วยเหตุผลประการนี้การบินไทยก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบูรณะวัด 

หลวงพ่อทันใจ แห่งวัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้เดินทางมาขอพร บนบาน แล้ว ประสบความสำเร็จ เช่นถูกหวยรางวัลใหญ่ การงานสำเร็จ และได้เดินทางกลับมาถวายดอกมะลิเพื่อแก้บน (ความเชื่อส่วนบุคคล) จากข่าวที่ผู้เขียนเคยอ่านมาบางคนแก้บนด้วยดอกมะลิแสนพวงก็มี

วัดพระธาตุดอยคำ

วัดบ้านเด่น

วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน หรือที่เรียกกันว่า วัดบ้านเด่น เดิมชื่อ วัดหรีบุญเรือง ตั้งอยู่ใน อำเภอแม่แตง แต่ก่อนภายในวัดมี ต้นโพธิ์ หรือ ต้นสะหรี ขนาดต่าง ๆ ซึ่งมีความหมายเป็นมงคล จึงได้นำชื่อมาตั้งเป็นชื่อวัด แล้ววัดยังตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าสมัยโบราณซึ่งเรียกว่า เมืองแกน ชาวบ้านเลยเรียกชื่อวัดว่า “วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน” นับตั้งแต่นั้นมา

วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกนตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ และใต้เนินนั้นเป็นถ้ำศักสิทธิ์ที่ ชาวบ้านพากันนับถือ จึงเรียกวัดนี้กันว่า “วัดบ้านเด่น” นอกจากจะแวดล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม ยังสิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงาม วิจิตรตระการตา ทั้ง อุโบสถ หอไตร หอกลอง วิหารเสาอินทขิล กุฏิไม้สักทองทรงล้านนา พระวิหาร สถูปเจดีย์ ศาลาที่ประดิษฐานพระสำคัญๆของไทย (องค์จำลอง)

วัดบ้านเด่น

ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาว อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว ยอดสูงสุดของดอยเชียงดาว เรียกว่า ดอยหลวงเชียงดาว (เพี้ยนมาจากคำที่ชาวบ้านในละแวกเปรียบเทียบดอยนี้ว่าสูง "เพียงดาว") มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำ สูง 2,195 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นยอดดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศรองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก

จากบนยอดดอยซึ่งเป็นที่ราบแคบ ๆ สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน คือ ทะเลหมอกด้านอำเภอเชียงดาว ดอยสามพี่น้อง เทือกดอยเชียงดาว ตลอดจนถึงยอดดอยอินทนนท์อันไกลลิบ อากาศเย็น ลมแรง และสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่าภูเขาที่หาชมได้ยากมากมายรวมทั้งนกและผีเสื้อด้วย (ไม่เหมาะที่จะขึ้นไปยืนบนยอดดอยทีละกลุ่มใหญ่ ๆ เพราะจะไปเหยีบย่ำทำลายพันธุ์ไม้บนดอย) การเข้าไปใช้พื้นที่ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า อย่างน้อย 15 วัน ก่อนการเดินทาง

การเดินทาง สู่ยอดดอยเชียงดาวเริ่มที่ถ้ำเชียงดาว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อคนนำทาง ลูกหาบ รวมทั้งรถไปส่งที่จุดเริ่มเดิน (เด่นหญ้าขัด)ได้ โดยค่าเช่ารถประมาณ 900 บาท ค่าจ้างลูกหาบประมาณวันละ 400 บาทต่อลูกหาบหนึ่งคน บนดอยเชียงดาวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ต้องเตรียมอุปกรณ์พักแรมและอาหารไปเองส่วนทางลงนิยมใช้ทางสายบ้านถ้ำซึ่งอยู่ใกล้กับถ้ำเชียงดาว เพราะมีทางสูงชันสามารถลงได้รวดเร็วกว่าแต่ไม่เหมาะกับการขึ้น

ดอยหลวงเชียงดาว

คิงคองยักษ์ ณ ห้วยตึงเฒ่า

หุ่นฟางคิงคองยักษ์นี้ตั้งอยู่ที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า สถานที่พักผ่อนของชาวเชียงใหม่ ที่สร้างความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวยิ่งนัก เพราะมีนักท่องเที่ยวจากทุกที่พากันมาแชะภาพสวยๆ คู่กับหุ่นฟางคิงคองยักษ์นี้ และชมวิวของบรรยากาศทุ่งนาสีเขียวที่มีภูเขารายล้อมด้านหลังมีสะพานไม้ไผ่ทอดยาวไปกลางนา นอกจากนี้ยังมีกระท่อมกลางนาไว้สำหรับเป็นที่พักแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย 

จุดเริ่มต้นของการทำหุ่นฟางคิงคองยักษ์นั้น ก็เพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นป่าไม้ดอยสุเทพ เป็นผลงานสร้างสรรค์จากอาจารย์และลูกศิษย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคอีสาน โดยเริ่มแรกจะมีเพียงแค่หุ่นฟางคิงคองตัวลูกเท่านั้น ต่อมาเลยมีหุ่นฟางคิงคองตัวแม่พ่อตามมา นับเป็นหุ่นฟางคิงคองยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย หรืออาจจะใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

คิงคอยักษ์ ห้วยตึงเฒ่า

ขุนช้างเคี่ยน

ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิวเศน์ และบ้านม้งดอยปุย สถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนเป็นหนึ่งในสถานีเกษตรฯ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์กาแฟ ผลไม้เมืองหนาว เช่น ท้อ พลับ บ๊วย พลัม อะโวกาโด มะคาเดเมีย และผลไม้กึ่งร้อน ได้แก่ ลิ้นจี่

ในช่วงปลายธ.ค-ม.ค. ต้นนางพญาเสือโคร่งหรือที่เรียกกันว่าซากุระเมืองไทย สีชมพูสดจะบานสะพรั่งอวดความงามไปทั่วบริเวณสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน 

ขุนช้างเคี่ยน

บ่อน้ำพุร้อนฝาง

บ่อน้ำพุร้อนฝางตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เกิดจากพลังงานความร้อนใต้ผิวโลก น้ำมีอุณหภูมิสูงถึง 90-130 องศาเซลเซียส มีน้ำแร่ทั้งปี บริเวณกว้างโปร่งตา ที่นี่มีห้องบริการอาบน้ำแร่ ทั้งห้องอาบน้ำและอบไอน้ำ รวมทั้งบ่ออาบน้ำร้อนกลางแจ้ง เปิด 07.00-19.00 น. นอกจากนี้จากที่ทำการอุทยานฯ ยังมีเส้นทางเดินขึ้นเขาผ่านป่าเบญจพรรณมาถึงน้ำพุร้อนระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ห่างจากบ่อน้ำร้อนประมาณ 300 เมตร จะมีห้วยแม่ใจ ซึ่งมีน้ำไหลมากตลอดปี

บ่อน้ำพุร้อนฝาง

หากบทความนี้ดีต่อใจ เชิญคนที่คุณรักมาเที่ยวเชียงใหม่กับ แม่ฮ่องสอน กรีน ทราเวล กันนะคะ

สนใจโปรแกรมทัวร์เชียงใหม่ คลิก>>> อัพเดทโปรแกรมทัวร์เชียงใหม่ 2567


  • เที่ยวแม่ฮ่องสอนหน้าฝน
    Green Season เที่ยวหน้าฝนเมืองแม่ฮ่องสอน Green Season ปีนี้ ชวนหนีความเหงา ไปให้เขากอด ที่เมืองสามหมอก จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อสายฝนโปรยปรายลงมา แม่ฮ่องสอนก็ชุ่มชื้นและงดงามในทุกอณู...

  • ถนนหมายเลข 3.jpg
    รีวิวเที่ยวน่าน 2567 หากนึกถึงการเดินทางที่อัดแน่นไปด้วยความเขียวขจีของขุนเขาและท้องทุ่ง มองไปทางไหนก็ดูเขียวสบายตาและรู้สึกสดชื่น น่านเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เม...

  • อัพเดทที่เที่ยวยอดนิยมแม่ฮ่องสอน 2565
    อัพเดทที่เที่ยวยอดนิยมแม่ฮ่องสอน 2567/2024 แม่ฮ่องสอนมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย วันนี้เราได้อัพเดทที่เที่ยวยอดนิยมแม่ฮ่องสอน 2567มาให้ทุกท่านได้วางแผนก่อนออกเดินทาง เมื่อนึกถึงจังหว...

  • รีวิวที่พักบ้านรักไทย
    รีวิวที่พักบ้านรักไทย สัมผัสอากาศเย็นตลอดทั้งปี (อัพเดท 2566/2023) หมายเหตุ:สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามห้องพัก กรุณาติดต่อกับทางรีสอร์ทโดยตรงเลยค่ะ ทางเราเป็นบริษัททัวร์รับจัดกรุ๊ปท...

  • ถ้ำลอด กุญแจไขความลับจากบรรพกาลเมื่อ 32,000 ปีที่แล้ว
    ถ้ำลอด กุญแจไขความลับจากบรรพกาลเมื่อ 32,000 ปีที่แล้ว วันนี้ผมจะพาทุกๆ ท่าน นั่งยานไทม์มะชินของโดราเอม่อนผ่านเส้นบิดงอของอวกาศสู่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่วนอุทยานแห่งชาติถ้ำลอด อ.ปา...

  • original-1608892954576.jpg
    กลอเซโล ทะเลหมอกสองแผ่นดิน กลอเซโล เป็นสถานที่ชมทะเลหมอกแห่งใหม่ที่น้อยคนจะเคยได้ยินชื่อ อยู่สุดชายแดนติดประเทศเมียนมากลอเซโลเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ที่ ต.แม่สามแลบ อ...

  • วัดจองคำ จองกลาง.jpg
    วัดจองกลาง เสน่ห์วัดไทใหญ่ ชมตุ๊กตาไม้แกะสลัก เมื่อมายืนอยู่ตรงศาลาหนองจองคำ สวนสาธารณะใจกลางเมืองแม่ฮ่องสอน แล้วทอดสายตาไปเบื้องหน้า เราจะมองเห็นงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลัก...

  • หลวงพ่อโต วัดจองคำ.jpg
    แม่ฮ่องสอน เมืองเล็ก ๆ ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม วิถีชีวิตของชนเผ่า วัฒนธรรมที่หลากหลาย และยังเป็นเส้นทางสำหรับท่...
Visitors: 85,299