ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาว อยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนที่วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ มีพื้นที่ประมาณ 583,750 ไร่ หรือ 934 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น แบ่งพื้นที่ออกเป็น ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก สองฝั่งแม่น้ำเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ในเขตเทือกเขาประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา โดยในเดือนกุมภาพันธ์จะพบความสวยงามของป่าเปลี่ยนสีที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังพบสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น นกยูงซึ่งมีอยู่หลายฝูง เสือดาว เสือดำ หมี กวาง หมาป่า หมาใน ช้างป่า วัวแดง และกระทิง ซึ่งจะอพยพไปมาระหว่างเขตติดต่อประเทศไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 

 

สถานที่ท่องเที่ยว

1. ดอยผาชู้

ถ้าเอ่ยถึงจุดชมทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงาม ย่อมต้องมีชื่อของผาชู้ ติดอันดับต้น ๆ ของน่านอย่างแน่นอน แม้ผาชู้มีตำนานเรื่องความรักอันอมตะระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งกับเจ้าจันทน์ผา ที่ได้เกิดโศกนาฏกรรมแห่งความเศร้าบนผาแห่งนี้ ทว่าปัจจุบันบนนี้คือที่ทำการของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน

ตำนานแห่งผาชู้

มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง แต่เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก จึงตัดสินใจกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ครั้นเจ้าจันทน์ผาตามมา ก็พบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดดหน้าผาไปแล้ว จึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักตกไปอยู่ใกล้กัน พอเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผาไปจึงรู้สึกเสียใจและตัดสินใจกระโดดหน้าผาตามลงไปด้วย แต่ร่างของเจ้าจ๋วงกระเด็นห่างออกไป ด้วยความรักแท้ระหว่าง เจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้งจึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ใต้ต้นจันทน์ผา ส่วนเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสน ณ จุดที่ตกไปนั้นเอง (คำว่า "จ๋วง" เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ต้นสน ส่วน "เอื้องผึ้ง" แปลว่ากล้วยไม้) หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า "ผาชู้" นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

 

ทั้งนี้ ในช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางสู่ผาชู้ เพื่อชมทะเลหมอกรับแสงตะวันยามเช้าครั้นเมื่อสายหมอกจางลงก็จะเผยให้เห็นลำน้ำน่านทอดตัวคดเคี้ยวอยู่ปลายผืนป่า ทั้งนี้ การชมทะเลหมอกนั้นต้องเดินทางขึ้นผาชู้ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินราว 1 ชั่วโมง เตรียมรองเท้าผ้าใบที่สวมกระชับ สบายสะดวกในการปีนป่าย เพราะบางช่วงอาจเจอหินแหลมคม และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางทุกครั้ง

นอกจากนี้ อีกไฮไลท์บนดอยผาชู้ที่พลาดไม่ได้เลย คือ การเป็นสถานที่ตั้งสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวประมาณ 200 เมตร เรียกว่า ต้องร้องเพลงชาติประมาณ 12 จบกันเลยทีเดียวกว่าจะเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาได้สำเร็จ

 

ผาหัวสิงห์และดอยเสมอดาว

อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 สายนาน้อย-ปางไฮ จากบนนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา ชมอาทิตย์ขึ้นเหนือผืนทะเลหมอก หรืออำลาดวงตะวันลาลับขอบฟ้า ล้วนเป็นภาพความงามที่น่าประทับใจไม่แตกต่างกัน ที่นี่มีพื้นที่กางเต็นท์สำหรับคนอยากนอนนนับดาว การเดินขึ้นไปบนผาสิงห์ อันเป็นหน้าผาที่มีรูปร่างคล้ายหัวสิงห์นั้น มีระยะทาง 2 กิโลเมตร และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ ระหว่างทางจะพบต้นจันทน์ผาน่าตื่นตาในวันท้องฟ้าแจ่มใส จากผาสิงห์เราสามารถมองเห็นอำเภอนาน้อย อำเภอเวียงสา และแม่น้ำน่าน ได้อย่างชัดเจน ทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำน่าน แม่น้ำน่านทอดตัวผ่านกลางอุทยานฯ ตั้งแต่เหนือสุดจนถึงใต้สุดยาวกว่า 60 กิโลเมตร เราสามารถล่องเรือ ล่องแพ ชมธรรมชาติสองฝั่งน้ำที่เผยให้เห็นทิวทัศน์ เกาะแก่ง โขดหิน หาดทราย หน้าผา ที่ได้ร้อยเรียงร่วมกันเป็นลำนำอันงดงามจากธรรมชาติ โดยจุดเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ ผาง่าม หน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่กลางป่าเขาที่เขียวขจี ผาขวาง หน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งขวางอยู่กลางแม่น้ำน่าน มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ปากนาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ห่างจากตัวอำเภอ 27 กิโลเมตร ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 63 กิโลเมตร ปากนายเกิดจากสภาพป่าที่ถูกน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ท่วม ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์สวยงาม เราสามารถนั่งเรือชมธรรมชาติ หรือพักผ่อนบนเรือนแพของชาวประมง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางข้ามไปจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านบริเวณนี้เพื่อแวะชมและพักค้างคืนเป็นจำนวนมาก

 

Visitors: 71,889